วิธีคำนวณปริมาตรถังเก็บน้ำดับเพลิงโรงงาน ตาม NFPA และกฎหมายไทย

“ถังเก็บน้ำดับเพลิง คือหัวใจสำคัญของระบบป้องกันอัคคีภัยทั้งหมด”

 

วันนี้ SAN-PAC ผู้นำด้านถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง ด้วยประสบการณ์กว่า 31 ปี ขอเสนอวิธีการคำนวณแบบละเอียด พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงข้อกำหนดกฎหมายและมาตรฐานที่โรงงานควรทราบ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าโครงการของคุณจะปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด

ขนาดของถังเก็บน้ำดับเพลิงยังได้ถูกกำหนดในมาตรฐานสากลอย่าง NFPA (National Fire Protection Association หรือ สมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติ) ที่ได้ระบุข้อกำหนดให้นำมาใช้ในกระบวนการก่อสร้างและบริหารจัดการอาคารให้มีความปลอดภัย นอกจากนี้ ประเทศไทยก็ได้มีกฎกระทรวงต่าง ๆ เช่น กฎกระทรวงฉบับ 33 กฎกระทรวงแรงงาน และประกาศกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ซึ่งกำหนดมาตรฐานการสำรองน้ำสำหรับระบบดับเพลิงไว้อย่างชัดเจน

“การคำนวณปริมาตรถังเก็บน้ำสำหรับดับเพลิงนั้นเป็นเรื่องซับซ้อน ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวที่ใช้ได้กับทุกกรณี”

 

เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมและความเสี่ยงเฉพาะของแต่ละอาคารหรือสถานที่นั้น ๆ มีความแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดเป็นรายกรณีไป

 

3 ขั้นตอน ในการคำนวณปริมาตรถังเก็บน้ำดับเพลิงให้เหมาะกับโครงการของท่าน (อ้างอิงมาตรฐานที่กฎหมายประเทศไทยล่าสุด)

การกำหนดปริมาตรถังเก็บน้ำดับเพลิงโรงงาน ไม่ใช่แค่การประมาณ แต่ต้องอ้างอิงหลักการทางวิศวกรรมและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดกฎหมายดับเพลิง

1. คำนวณอัตราการใช้น้ำดับเพลิง (Minimum Flow Rate)

อัตราการใช้น้ำต้องสอดคล้องกับมาตรฐานทางวิศวกรรม เช่น มาตรฐาน วสท. 2002-51 ที่กำหนดอัตราไหลขั้นต่ำสำหรับหัวฉีดน้ำดับเพลิง (Sprinkler System) หรือสายฉีดน้ำ:

  • อาคารทั่วไป: 750-1,000 ลิตร/นาที
  • โรงงาน: 1,500-2,000 ลิตร/นาที
  • คลังสินค้า: 2,000-3,000 ลิตร/นาที

หลักการคำนวณ: คำนวณตามจำนวนหัวฉีดที่สามารถใช้งานพร้อมกันในพื้นที่ที่กำหนด (โดยทั่วไปมักคำนวณที่ 2-4 หัวฉีดหลัก)

2. กำหนดระยะเวลาสำรองน้ำ (Minimum Duration)

ตามมาตรฐานสากล เช่น NFPA 13 (Standard for the Installation of Sprinkler Systems) ได้กำหนดระยะเวลาสำรองน้ำขั้นต่ำไว้:

  • มาตรฐานขั้นต่ำ: 30 นาที
  • พื้นที่เสี่ยงสูง: อาจต้องการเวลาสำรองที่นานขึ้น เช่น 60-120 นาที หรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับการเข้าถึงของหน่วยดับเพลิงภายนอกและความเสี่ยงของวัสดุ)

3. คำนวณปริมาตรรวม (Total Volume Required)

เมื่อได้อัตราการใช้น้ำและระยะเวลาสำรองแล้ว สามารถหาปริมาตรรวมที่ต้องการได้ด้วยสูตร:

ปริมาตรของถังสำรองน้ำดับเพลิง (ลิตร) = อัตราการใช้น้ำ (ลิตร/นาที) × ระยะเวลาสำรอง (นาที)

ตัวอย่าง: โรงงานขนาดใหญ่ ใช้น้ำ 10,000 ลิตร/นาที × สำรอง 60 นาที = 600,000 ลิตร สำหรับปริมาตรถังสำรองน้ำดับเพลิง

“เหนือกว่าด้วยมาตรฐานวิศวกรรม ถังเก็บน้ำดับเพลิงไฟเบอร์กลาส SAN-PAC สำหรับโรงงาน”

นอกจากการคำนวณปริมาตรที่แม่นยำแล้ว การเลือกถังที่ได้มาตรฐานก็เป็นสิ่งสำคัญ SAN-PAC มั่นใจด้วยประสบการณ์กว่า 31 ปี และการออกแบบที่เน้นความปลอดภัยเชิงวิศวกรรม:

 

แข็งแรงด้วย วงแหวนไฟเบอร์เสริมแรง Fiberglass Reinforced Ring

ความแข็งแรงและความทนทานที่เหนือกว่ามาตรฐาน

ถัง SAN-PAC ผลิตจากไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง ด้วยเทคโนโลยีเชิงวิศวกรรมที่ทำให้วัสดุมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง เสริมแรงให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า มอก.435-2548 ทั่วไป รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารกัดกร่อนหรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงรุนแรง

การออกแบบเชิงวิศวกรรมเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

เรามีการวิเคราะห์และคำนวณโครงสร้างอย่างเข้มงวด รวมถึงการเสริมความแข็งแรงด้วยวงแหวนไฟเบอร์เสริมแรง (Fiberglass Reinforced Ring) เพื่อรองรับแรงดันสูงของระบบดับเพลิงและปั๊มดับเพลิง (Fire Pump) ได้อย่างมั่นคง

ระบบ Ventilation ที่สอดคล้องกับ Fire Pump โดยตรง

SAN-PAC เน้นการออกแบบระบบ Ventilation (ระบบระบายอากาศ) ที่ทำงานร่วมกับ Fire Pump ได้อย่างราบรื่น เพื่อป้องกันการเกิดความดันตกค้างหรือการสะสมของก๊าซภายในถัง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความปลอดภัยและการทำงานระยะยาวของระบบดับเพลิง

“บันไดและ Walkway ที่ปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม”

เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยสูงสุดในการบำรุงรักษา บันไดขึ้นถังและรางกันตก (Walkway) ถูกออกแบบให้รองรับน้ำหนักได้อย่างมั่นคง ใช้วัสดุที่ทนทาน และมีพื้นผิวกันลื่น (Non-slip surface) เพื่อลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานบนที่สูง

 

ประสบการณ์กว่า 31 ปี พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญ

ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานานกว่า 3 ทศวรรษในวงการ ทำให้ SAN-PAC มีความเข้าใจในความต้องการเฉพาะของโรงงานอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและทีมวิศวกรที่พร้อมให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายอย่างครบวงจร

 

การลงทุนในถังเก็บน้ำดับเพลิง คือการลงทุนในความปลอดภัยและความยั่งยืนของธุรกิจ โรงงานของคุณจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้แค่มีขนาดเหมาะสม แต่ยังต้องมีคุณภาพที่เชื่อถือได้ตามมาตรฐานสากล

ให้ SAN-PAC เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจในระบบป้องกันอัคคีภัยของคุณ

 

📞 โทร: (02) 954-5391-3 หรือ 088-614-7122

#ถังเก็บน้ำดับเพลิงโรงงาน #ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส #SanPac #คำนวณปริมาตรถังดับเพลิง #ข้อกำหนดกฎหมายดับเพลิง #FireTank #NFPA

Blogs

วิธีคำนวณปริมาตรถังเก็บน้ำดับเพลิงโรงงาน ตาม NFPA และกฎหมายไทย

“ถังเก็บน้ำดับเพลิง คือหัวใจสำคัญของระบบป้องกันอัคคีภัยทั้งหมด”   วันนี้ SAN-PAC ผู้นำด้านถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง ด้วยประสบการณ์กว่า 31 ปี ขอเสนอวิธีการคำนวณแบบละเอียด พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงข้อกำหนดกฎหมายและมาตรฐานที่โรงงานควรทราบ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าโครงการของคุณจะปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด ขนาดของถังเก็บน้ำดับเพลิงยังได้ถูกกำหนดในมาตรฐานสากลอย่าง NFPA (National Fire Protection Association หรือ สมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติ)

อ่านเพิ่มเติม
Blogs

5 ข้อพิจารณา ถังเก็บน้ำดับเพลิงสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

“เหนือกว่าด้วยการออกแบบเชิงวิศวกรรม ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ในวงการน้ำเสียประเทศไทย” การบริหารจัดการทรัพยากรสำหรับความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการมีอุปกรณ์ดับเพลิงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ แข็งแรงทนทาน และออกแบบมาอย่างเชี่ยวชาญเพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับถังเก็บน้ำดับเพลิง SAN-PAC ถือเป็นทางเลือกชั้นนำที่หลายโรงงานไว้วางใจ เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยและการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่เป็นเลิศ รวมถึงนวัตกรรมด้านระบบ Ventilation ที่สอดคล้องกับ Fire Pump ได้อย่างลงตัว 1.

อ่านเพิ่มเติม

ข้อกำหนดถังบำบัดน้ำเสียอาคารใหญ่ บำบัดน้ำเสียอาคาร ครบวงจร

ถังบำบัดน้ำเสียอาคารใหญ่ ระบบคุณภาพสูงจาก SAN-PAC พร้อมบริการครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ในยุคปัจจุบัน ความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอาคารทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ เจ้าของอาคาร และบริษัทรับสร้างต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากการยึดมาตรฐานและปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณอีกด้วย อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงกฎหมาย และข้อกำหนดต่างๆ จากทั้งกระทรวงมหาดไทย และกรมควบคุมมลพิษ เช่น

อ่านเพิ่มเติม